SHAP (SHapley Additive exPlanations)
เป็นวิธีการที่ใช้ในการพัฒนา Machine Learning Model สำหรับการอธิบายผลลัพธ์ของ Model มีรายละเอียดดังนี้
1) ค่า Shapley:
SHAP อิงตามค่า Shapley จาก Game theory ในบริบทของ Machine Learning คุณลักษณะ (features) ถูกมองว่าเป็น "Players" ในเกมที่การทำนายคือ "Payout"
🏠 ตัวอย่าง: สมมติว่ามี Model ทำนายราคาบ้าน มี Features เช่น ขนาด ทำเล และอายุ เป็น "Players" และราคาที่ทำนายคือ "Payout"
2) การคำนวณค่า SHAP:
แต่ละ SHAP feature จะถูกนำมาพิจารณาการรวมกันที่เป็นไปได้ (Possible combination) กับ Features อื่นๆ และคำนวณการมีส่วนร่วมของ Feature นั้น
สูตร: φi = Σ (S⊆N{i}) [ |S|!(|N|-|S|-1)! / |N|! ] [fx(S ∪ {i}) - fx(S)]
โดยที่:
- φi คือค่า SHAP สำหรับ Feature i
- N คือชุดของ Features ทั้งหมด
- S คือชุดย่อยของ Features
- fx คือการทำนายของ Model
3) การอธิบาย Instance (Local Explanation):
SHAP ให้คำอธิบายระดับ Instance แสดงว่าแต่ละ Feature มีส่วนร่วมต่อการทำนายอย่างไร
🏠 ตัวอย่าง: สำหรับการทำนายราคาบ้านที่ 300,000 บาท SHAP อาจแสดง:
- ค่าพื้นฐาน: 250,000 บาท
- ขนาด: +30,000 บาท
- ทำเล: +25,000 บาท
- อายุ: -5,000 บาท
4) การอธิบายภาพรวม (Global Explanation):
โดยการรวมคำอธิบายเฉพาะที่ SHAP ให้ข้อมูลเชิงลึกระดับ Model
🏠 ตัวอย่าง: ค่าสัมบูรณ์เฉลี่ยของ SHAP ในทุกตัวอย่างอาจแสดง:
- ขนาด: 0.35
- ทำเล: 0.28
- อายุ: 0.15
แสดงถึงความสำคัญของ Features โดยรวม
5) แผนภาพ SHAP plot:
- Summary plot: แสดงความสำคัญของ Feature และทิศทางผลกระทบ
- Dependence plot: แสดงว่าผลกระทบของ Feature เปลี่ยนแปลงอย่างไรตลอดช่วงค่าของมัน
- Force plot: แสดงภาพการมีส่วนร่วมของคุณลักษณะสำหรับการทำนายเดียว
6) การประยุกต์ใช้:
- Model Interpretation: เข้าใจการทำนายของ Model
- Feature Selection: ระบุ Features ที่สำคัญที่สุด
- Model Debugging: ตรวจจับและแก้ไขพฤติกรรมของ Model ที่ไม่คาดคิด
- Regulatory Compliance: อธิบายการตัดสินใจของ Model ในอุตสาหกรรมที่มีการควบคุม เช่น Healthcare การเงิน
7) ข้อดี:
- Consistency: ไม่เหมือนวิธีการอธิบายอื่นๆ บางวิธี SHAP มีความสอดคล้องทางคณิตศาสตร์
- Model-agnostic: ทำงานได้กับทุกๆ Machine Learning Models
- Local & Global: ให้คำอธิบายทั้งระดับ Instance และระดับ Model
8) ความท้าทาย:
- ความซับซ้อนในการคำนวณ: การคำนวณค่า SHAP ที่แม่นยำอาจมีความซับซ้อนมาก โดยเฉพาะกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Model ที่ซับซ้อน
- การตีความ Interaction: แม้ว่า SHAP จะจับ Interaction ของ Features ได้ แต่การตีความสิ่งเหล่านี้อาจเป็นเรื่องท้าทาย
9) การนำไปใช้:
มี Python library และสามารถรวมเข้ากับ Machine Learning framework ที่นิยม เช่น Scikit-learn, XGBoost และ TensorFlow ได้
💻 ตัวอย่าง Python code:
import shap
import xgboost as xgb
# Train XGBoost Model
model = xgb.XGBRegressor().fit(X, y)
# คำนวณค่า SHAP
explainer = shap.TreeExplainer(model)
shap_values = explainer.shap_values(X)
# แสดงผลลัพธ์
shap.summary_plot(shap_values, X)
Code นี้ ใช้ Train XGBoost Model คำนวณค่า SHAP และสร้างแผนภาพสรุป Features ที่สำคัญ
SHAP ถือเป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ใน Machine Learning และ Data Science เนื่องจากอยู่บนพื้นฐานทางทฤษฎีที่แข็งแกร่งและมีประโยชน์ในทางปฏิบัติ การอธิบาย Model ที่ซับซ้อน ทำให้เข้าใจการตัดสินใจของ Model เช่น ในด้าน Healthcare การเงิน หรือกระบวนการตัดสินใจที่มีความเสี่ยงสูง
Blog นี้ เขียนร่วมกับ Claude.ai โดยใช้ Prompt
As a data scientist, please explain about SHAP for machine learning in details.